ต
ลำดับที่ 201. “ตกก่อนเป๋นขุน ตกลูนเป๋นไพร่”
หมายถึง....การเริ่มก่อน เร่งขยันหมั่นทำกินตอนมีโอกาส ตอนมีกำลังแข็งแรง ย่อมเจริญก้าวหน้ากว่า
การนำไปใช้ การทำงานอย่ามัวรอเวลา ควรลงมือทำ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “การเริ่มต้นที่ดีเท่ากับสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง”
ลำดับที่ 202. “ตุ๊กข์บ่ได้กิ๋น บ่มีไผต๋ามไฟส่องต๊อง ตุ๊กข์บ่ได้นุ่งได้หย้อง ปี้น้องดูแควน”
หมายถึง.....ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่
การนำไปใช้ ควรความเป็นอยู่ พอสมควรตามฐานะ อย่าเด่นหรือด้อยจนเกินไป ทั้งเรื่องการกิน
การแต่งกาย อย่าให้ผู้อื่นนินทาว่าเป็นคนขี้เหนียว
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ไม่มีกินใครไม่ใส่ใจ ยากจนไม่ได้แต่งกายพี่น้องดูถูกดูแควน”
ลำดับที่ 203. “ตกต่าเปิ้นเป๋นดีใคร่หัว ตกต่าตั๋วเป๋นดีใคร่ไห้”
หมายถึง....เห็นคนอื่นโชคร้ายดูน่าขบขัน ถึงคราวตนเองประสบเคราะห์กรรมจึงรู้สึกถึงความลำบาก
การนำไปใช้ เห็นใจผู้ประสบเคราะห์ ช่วยเหลือได้ให้ช่วยเหลือ
ลำดับที่ 204. “ตกน้ำหื้อปอเปียะ”
หมายถึง…..ได้ลงมือทำแล้วก็ทำต่อเนื่องจนสำเร็จเรียบร้อยมีความสมบูรณ์ทำให้คุ้มค่ากับที่ได้ลงทุนไป
การนำไปใช้ ลงมือทำจริงจัง มีความตั้งใจอยากเห็นความสำเร็จ
ลำดับที่ 205. “ตดบ่เป๋นปูด”
หมายถึง…..ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเวลาพักผ่อนหรือไม่มีเวลาเป็นของตนเอง
การนำไปใช้ ควรพักผ่อนร่างกายบ้าง ป่วยไข้ขึ้นมาจะลำบาก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “สายตัวแทบขาด”
ลำดับที่ 206. “ตดบ่จ้างตดขี้ก็ออก หยอกบ่จ้างหยอกก็ผิดกั๋น”
หมายถึง…..ควรรู้กาลเทศะ รู้จักสำรวมกริยาวาจา รู้ว่าบางเรื่องหยอกล้อได้แต่บางเรื่องใดเป็นเรื่องจริงจัง ”
การนำไปใช้ ควรวางตัวสำรวมเหมาะสม ถูกกาลเทศะ
ลำดับที่ 207. “ตดหื้อหมาดม”
หมายถึง.....หลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อ หลอกให้หลงดีใจ กำบ่าเก่าจึงว่า “ตดหื้อหมาดม”
การนำไปใช้ อย่าหลอกลวงผู้อื่น
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ขุบ่อล่อปลา”
ลำดับที่ 208. “ตดหน้าขี้” อ่าน
หมายถึง.....แรกๆลงมือทำจริงจัง พอหลังๆปล่อยทิ้งไว้ไม่ใจใส่ ทำไม่สำเร็จ
การนำไปใช้ อย่าทำเฉพาะตอนเริ่มต้น ควรทำสิ่งใดอย่างจริงจัง ทำให้ประสบความสำเร็จ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ท่าดีทีเหลว”
ลำดับที่ 209. “ตอกสั้นหื้อมัดตี้กิ่ว สิ่วสั้นหื้อสิ่วไม้บาง”
หมายถึง.....อย่าทำอะไรเกินฐานะความเป็นอยู่ ควรรู้เจียมตัว
การนำไปใช้ รู้เจียมตัว รู้ประมาณตนเอง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เจียมตัว”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ตอกสั้นมัดที่คอดกิ่ว สิ่วสั้นให้สิ่วไม้บาง(ไม้หนาสิ่วไม่ทะลุ)”
ลำดับที่ 210. “ต๋ามีหน้า ผ่อหน้าบ่อหัน”
หมายถึง.....มองไม่เห็นความผิดพลาดของตน ไม่รู้ประมาณตน
การนำไปใช้ ควรรู้จักสำรวจตนเองว่าประพฤติปฎิบัติตามความถูกต้องของสังคมหรือไม่
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ไม่ดูเงาหัว”
ลำดับที่ 211. “ต๋าหันดายเหมือนควายหันหญ้า ผัดไปผัดมาแวดแฮ้ว”
หมายถึง....สุดความสามารถที่จะเข้าไปหาผลประโยชน์
การนำไปใช้ ควรรู้จักระงับจิตใจ สิ่งใดเกินความสามารถอย่าพยายามไขว่คว้า
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “หมาเห็นข้าวเปลือก”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ได้แต่มองหา เหมือนควายเห็นหญ้า แต่โดนผูกแร้ว ”
ลำดับที่ 212. “ต๋าหล็วกก่อได้ ต๋าใบ้ก่อเสีย”
หมายถึง.....รู้เท่าทันก็ไม่โดนต้มตุ๋นโดนหลอกลวง
การนำไปใช้ ศึกษาหาความรู้ เพื่อให้เท่าทันคนอื่น จะได้ไม่หลงกลใคร
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ตาดีได้ ตาร้ายเสีย”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ถ้าฉลาดได้ รู้น้อยก็เสียท่า ”
ลำดับที่ 213. “ต๋ามไฟบ่ดีอ้าปาก บ่ดีถากไม้เข้าหามือ”
หมายถึง.....ทำงานใช้เครื่องมือต้องนึกถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
การนำไปใช้ ควรยึดหลักความปลอดภัย จุดไฟอ้าปากควันเข้าปาก ถากไม้เข้าหามือคมมีดจะโดนมือ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ปลอดภัยไว้ก่อน”
ลำดับที่ 214. “ต๋ามใจ๋ปากลำบากต๊อง กิ๋นหลายต๊องแตก แบกหลายหลังหัก”
หมายถึง.....การระมัดระวังดูแลสุขภาพ อย่าทานอาหารตามใจปาก อยากทานอะไรก็ทาน หรือทานมาก
อาจเกิดผลเสียกับกระเพาะตนเอง ส่วนการแบกหามถ้าหนักเกินกระดูกสันหลังจะหักได้
การนำไปใช้ ดูแลรักษาสุขภาพตนเอง
ลำดับที่ 215. “ต๋ามใจ๋ปล๋าจะกินเบ็ด ต๋ามใจ๋เป็ดจะกิ๋นหอย”
หมายถึง.....อะลุ้มอล่วยกันตามความชอบใจ
การนำไปใช้ ควรอะลุ้มอล่วยกัน อยู่กันอย่างพี่น้อง ใครชอบแบบไนก็ตามใจกันไปไม่ขัดข้อง
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “สมานฉันท์//บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น//ถ้อยทีถ้อยอาศัย”
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ตามใจปลาจะกินเบ็ด ตามใจเป็ดจะกินหอย”
ลำดับที่ 216. “ตี้ฟันบ่หัก ตี้ฮักบ่ได้”
หมายถึง.....ประสบความผิดหวัง ไม่ได้ดังใจปรารถนา ไม่เป็นไปตามความมุ่งหวังตั้งใจ
การนำไปใช้ อย่าท้อแท้ ทำใจให้สงบแล้วเริ่มต้นไหม่
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “อกหัก”
ลำดับที่ 217. “ตี๋หัวฟากสนั่นหัวฝา”
หมายถึง.....การพูดจาหรือกระทำการกระทบกระแทกแดกดันกันโดยทางอ้อม
การนำไปใช้ อย่าพูดประชดประชันผู้อื่น
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ตีวัวกระทบคราด”
ลำดับที่ 218. “ตี๋เหล็กไหน เปื๋องถ่านหั้น”
หมายถึง.....กระทำการที่ใด ย่อมเกิดความสิ้นเปลืองกับสถานที่นั้น
การนำไปใช้ให้ ต้องเสียสละ อย่าคิดเล็กคิดน้อย ถือเป็นเรื่องธรรมดา
เทียบเคียงกำบ่าเก่า-คำไทยกลาง “ตีเหล็กที่ใด เปลืองถ่านที่นั่น ”
ลำดับที่ 219. “ตุ๊กข์จะไปหนี มีจะไปอวด”
หมายถึง.....ครอบครัวมีปัญหาอย่าหนีเอาตัวรอด และเมื่อร่ำรวยขึ้นมาอย่าอวดมั่งมี
การนำไปใช้ ร่วมสู้ปัญหาที่เข้ามาในครอบครัวอย่างไม่ย่อท้อ ถ้าร่ำรวยก็ไม่อวดตัว
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ตัดช่องน้อยแต่พอตัว”
ลำดับที่ 220. “ตี๋นจ๊างย่ำปากนก”
หมายถึง.....ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลผู้มีอำนาจ จะร้องขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้
การนำไปใช้ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนชั่ว จะถอนตัวลำบาก อาจสังเวยด้วยชีวิต
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “น้ำท่วมปาก ”
ลำดับที่ 221.“ตุ้มผ้าลายหมาจ้างเห่า ค้นกำเก่าจ้างผิดกั๋น”
หมายถึง.....การรื้อฟื้นเรื่องบาดหมางที่ยุติไปแล้วมายุแหย่ จะทำให้เกิดความขัดแย้งกันได้
การนำไปใช้ อย่ารื้อฟื้นเรื่องบาดหมางมาพูดกันอีก
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ”
ลำดับที่ 222. “เตียวไปเดือดไป บ่มีคนตั๊ก เตียวไปตั๊กไป มีคนตั๊กคนไหว้”
หมายถึง.....คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ต่อผู้อื่น คนทั่วไปย่อมชื่นชอบ อยากมาพูดคุยด้วย
กำบ่าเก่าจึงว่า “เตียวไปเดือดไป บ่มีคนตั๊ก เตียวไปตั๊กไป มีคนตั๊กคนไหว้”
การนำไปใช้ ควรมีมนุษยสัมพันธ์
ลำดับที่ 223. “เต๋มว่าพริกหลวง หมื่นพันห้าร้อย บ่เต้าพริกหน้อยฟายมือ”
หมายถึง......สิ่งที่มีคุณค่าในตัวมากแม้มีปริมาณน้อย มีคุณค่ากว่าปริมาณมากแต่นำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้
การนำไปใช้ ให้สำรวจคุณค่าหรือประโยชน์ที่แฝงอยู่ อย่าดูแต่ปริมาณ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “เล็กพริกขี้หนู”
ลำดับที่ 224. “ไต่ขัวบ่ป๊น จะไปฟั่งห่มก้นโยนฮาว”
หมายถึง.....ยังไม่สำเร็จอย่าเพิ่งแสดงความลิงโลดดีใจ
กำบ่าเก่าจึงว่า “ไต่ขัวบ่ป๊น จะไปฟั่งห่มก้นโยนฮาว”
การนำไปใช้ ตั้งใจทำงานให้ประสบผลสำเร็จก่อน
ลำดับที่ 225. “ต๋ำฮาดียกจ้า ”
หมายถึง.....กระทำด้วยการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ถึงจะช้าไปบ้างแต่ได้ผลดี
การนำไปใช้ อย่าทำอะไรด้วยความรีบเร่งจนเกินไป ควรพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ
เทียบสำนวน สุภาษิต คำพังเพย ไทยกลาง “ช้าๆได้พร้าสองเล่มงาม///ช้าเป็นการนานเป็นคุณ”
